Badland Hunters : อันธพาลโลกล่มสลาย
1 min read

Badland Hunters : อันธพาลโลกล่มสลาย

Netflix อนุมัติการสร้างภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์เรื่อง นักล่ากลางนรก (Badland Hunters) โดยมีดอน ลี นักแสดงชื่อดังที่เคยได้รับบทเด่นๆ ในผลงานเรื่องสำคัญมากมาย อาทิ  The Roundup และผลงานจากมาร์เวลอย่าง Eternals ร่วมแสดง

เมื่อต้องสู้เพื่อรอดท่ามกลางโลกที่ล่มสลาย

เมื่อต้องเอาชนะโลกดิสโทเปียที่ถูกอำนาจเถื่อนครอบงำ

มีเพียงฮีโร่นักล่าผู้กล้าเท่านั้นที่พร้อมระห่ำประจัญบานให้ถึงที่สุด

badland hunters 11

Badland Hunters เป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น สะท้อนโลกดิสโทเปีย และสังคมอันเลวร้าย ซึ่งบทดัดแปลงมาจากเว็บตูนเรื่อง Happy Boy ในส่วนของพาร์ตที่สอง เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่อง Concrete Utopia (2023) โดยเนื้อหาเป็นเรื่องราวภายหลังจากนั้น และไม่ได้พาดพิงถึงกัน จึงไม่จำเป็นต้องชมเป็นลำดับกันมา

เรื่องนี้ผลงานกำกับเต็มตัวเรื่องแรกของ ฮอมยองแฮง ผกก.คิวบู๊หนังของมาดงซอกหลายเรื่อง เช่น The Roundup : No Way OutThe Roundup : Punishment และอีกหลายผลงานของ Netflix เช่น Jung-ENarco-Saints หรือหนังดังอย่าง The Good, the Bad, the Weird เป็นต้น รวมถึงเคยเป็นผู้ออกแบบงานบู๊ของหนัง Hopeless ด้วย

เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ทำให้กรุงโซลกลายเป็นดินแดนรกร้างในโลกที่ล่มสลาย ดอน ลีรับบทเป็นนัมซาน นักล่าขาลุยในดินแดนอันรกร้างแห่งนี้ อีฮีจุนรับบทเป็นยังกีซู หมอที่รอดชีวิตจากภัยพิบัติครั้งใหญ่ครั้งนั้น ส่วนอีจุนยองรับบทเป็นชเวจีวาน เพื่อนคู่หูที่นัมซานไว้ใจ เรื่องราวนี้ยังเจาะลึกเข้าไปในโลกที่การเอาชีวิตให้รอดกลายเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ความภักดีนั้นเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และเจตจำนงของมนุษย์จะถูกทดสอบภายใต้สภาวะที่โหดร้ายที่สุดของธรรมชาติ

이희준 프로필 컷 2 (출처 BH엔터테인먼트)

Lee Hee-jun

이준영 프로필 컷 1 (출처 블레이드엔터테인먼트)

Lee Jun-young

노정의 프로필 컷 3 (출처 나무엑터스)

Roh Jeong-eui

การได้นักแสดงที่มีผลงานเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่างดอน ลีมารับบทนำ ประกอบกับการที่ Netflix เข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง ภาพยนตร์เรื่อง นักล่ากลางนรก (Badland Hunters) จึงพร้อมกลายเป็นผลงานระดับบล็อกบัสเตอร์ที่คุ้มค่าแก่การรอคอย และหากพิจารณาถึงความสำเร็จที่ผ่านมาของดอน ลี จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำงานร่วมกับ Netflix ในครั้งนี้ของเขาจะจับใจผู้ชมทั่วโลกอย่างแน่นอน

ฮอฮยองแฮงซึ่งเป็นตัวจริงเรื่องการสร้างผลงานแอ็คชั่น เป็นที่รู้จักจากผลงานที่บอกเล่าเรื่องราวสุดเข้มข้นและการออกแบบฉากแอ็คชั่นได้อย่างเหนือชั้น และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งเรื่องราวที่โดดเด่นและความเป็นที่สุดในการนำเสนอผลงานแนวแอ็คชั่น ผู้ชมเตรียมใจรอพบกับงานภาพสุดตระการตาของโลกที่ล่มสลายอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาและฉากแอ็คชั่นที่จะทำให้หัวใจต้องเต้นระทึกได้เลย

นักล่ากลางนรก (Badland Hunters) นำเสนอทั้งเรื่องราวที่น่าติดตาม และความเป็นผลงานภาพยนตร์สุดอลังการที่จะช่วยตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์จากเกาหลีซึ่ง Netflix นำมามอบให้กับผู้ชม

รายละเอียดงานสร้าง

ชื่อเรื่อง: นักล่ากลางนรก (Badland Hunters) ผู้กำกับ: ฮอฮยองแฮง นักแสดง: ดอน ลี, อีฮีจุน, อีจุนยอง, โรจองแอ ผู้เขียนบท: ควักแจมิน, คิมโบทง บริษัทผู้สร้าง: Climax Studio, Big Punch Pictures บริษัทผู้สร้างร่วม: Nova film ผู้จัดจำหน่าย: Netflix

เรื่องย่อ: นัมซาน คือผู้พิทักษ์ของชุมชนหลังจากเกาหลีเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จนอารยธรรมสูญสลาย น้ำและอาหารกลายเป็นของมีค่า แล้วข่าวลือว่ามีอาคารที่ยังปลอดภัยมีระบบทำน้ำสะอาดอยู่ ก็แพร่เข้ามาถึงชุมชนอันแห้งแล้งแห่งนี้

เดิมทีนี่เป็นหนังที่วางตัวเป็นจักรวาลเดียวกันกับ ‘Concrete Utopia’ (2023) จึงไม่แปลกที่พล็อตเรื่องอะพาร์ตเมนต์สุดท้ายที่ยังเหลือรอดหลังวิกฤตแผ่นดินไหวจะทำให้รู้สึกคุ้น ๆ อยู่ไม่น้อย แต่บรรยากาศการนำเสนอนั้นต่างกันพอสมควร ในขณะที่ ‘Concrete Utopia’ เป็นหนังเครียดข้นจริงจัง หนังเรื่องนี้จะดูเบาสบายเพลิน ๆ เอามันมากกว่า

จุดขายของหนังเรื่องนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคือการโชว์ใบหน้าที่เราคุ้นเคยของ มาดงซอก เป็นตัวนำ โดยเอาบริบทแบบโลกล่มสลายมาเพิ่มความน่าสนใจ แต่สำหรับใครที่ไม่ใช่แฟนหนังแอ็กชันเกาหลีหรือหนังมาร์เวล ก็อาจจะกล่าวสลับกันได้ว่าพล็อตหนังน่าสนใจแล้วมีมา ดงซอกประกอบ แต่อย่างไรก็คงตัดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้

มา ดงซอก (Ma Dong-seok) หรือ ดอน ลี อาจเป็นดาราเกาหลีคนหนึ่งที่มีเอกลักษณ์ทำให้คนทั่วโลกจดจำได้ ไม่ใช่ด้วยความหล่อเหลาแบบเกาหลี แต่ด้วยรูปร่างใหญ่ สีหน้าเมินเฉยไม่แสดงอารมณ์ และบทบาทพี่ใหญ่นักบู๊หน้าตาโหดแต่แฝงความอ่อนโยน โดยเฉพาะการประกบ กงยู (Gong Yoo) ใน ‘Train to Busan’ (2016) จนโกอินเตอร์เต็มตัวในหนังมาเวลที่ฉายทั่วโลกอย่าง ‘Eternals’ (2021) ในบทเทพนาม กิลกาเมช

ใน ‘Badland Hunters’ หรือ ‘นักล่ากลางนรก’ มา ดงซอกก็ยังได้รับบทสไตล์เดิม ข้อดีคือทำให้เราเข้าใจตัวละครนี้ได้รวดเร็ว แต่ขณะเดียวกันเมื่อดูไปเรื่อย ๆ ก็อาจพูดได้อีกว่าผู้สร้างเอาจุดนี้มาโกงอยู่นิด ๆ เพราะพื้นหลังตัวละครนี้เบาบางจนหาความโดดเด่นจากตัวละครของเขาในเรื่องอื่นได้น้อย จะบอกว่าถ้าหนังตั้งชื่อใหม่ว่า ‘มา ดงซอก ตะลุยโลกทะเลทราย’ ก็คงไม่ผิด

Badland Hunters

แต่มันก็อาจเป็นความฉลาดของผู้กำกับอย่าง เฮียวมยองฮึง (Heo Myeong Haeng) ที่แม้จะมีผลงานในฝั่งสตันท์แมนมาหลายเรื่องอย่างบทสมุนของแก๊งอันธพาลใน ‘Oldboy’ (2003) แต่นี่คือผลงานกำกับเรื่องแรกของเขา แถมมีสเกลที่ค่อนข้างใหญ่เพราะฉากหลังเป็นโลกยุคอารยธรรมล่มสลายที่ทั้งจริงจังและแฟนตาซี ดังนั้นอะไรที่ทำได้ง่ายที่สุดก็ต้องง่ายไว้ก่อน

และต้องบอกว่ามันลงตัวดีพอสมควร กับความง่ายในการดูหนังแอ็กชันที่มีเส้นเรื่องแค่ประคองให้เราตามลุ้นไปได้ กับบทพี่ใหญ่ นัมซาน กับลูกมือหนุ่ม (อีจุนยอง – Lee Joon-young จาก ‘D.P.’) พ่อค้าเนื้อของชุมชนชาวบ้านอ่อนแอ ที่เคยมีอดีตแค้นกับพวกแก๊งอันธพาลที่ตระเวนปล้นชุมชนต่าง ๆ ทั้งเอาข้าวของและผู้คนไปขาย ชุมชนแห่งนี้อาจเป็นแห่งเดียวที่ยังปลอดภัยเพราะมีนัมซานปกป้องไว้

จนเมื่อข่าวลือเรื่องอะพาร์ตเมนต์เดียวดายที่ยังปลอดภัยจากแผ่นดินไหวและมีระบบทำน้ำประปาของตัวเองลอยเข้ามาสู่ชุมชน และครอบครัวที่มีลูกวัยรุ่นได้รับการเชื้อเชิญไปอาศัย จนเด็กสาว ซูนา ( โนจองอี – Roh Jeong Eui จาก ’18 Again’) ที่นัมซานให้ความเอ็นดูตัดสินใจไปอยู่อะพาร์ตเมนต์ แล้วภายหลังปรากฏว่ามันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด นัมซานจึงออกเดินทางตามล่าหาพวกคนจากอะพาร์ตเมนต์ดังกล่าวเพื่อช่วยซูนากลับมา

Badland Hunters

แต่หนังก็ยังเพิ่มความไซไฟเข้าไปอีก โดยมีเรื่องของการวิจัยเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตฆ่าไม่ตายเพื่ออยู่รอดกลางทะเลทราย จนมีกลิ่นผสมความเป็นหนังซอมบี้และหนังแวมไพร์ในครึ่งหลัง ซึ่งต้องบอกว่ามันมีความสุ่มเสี่ยงจะเป็นหนังที่ออกทะเลเอามาก ๆ แต่ด้วยบรรยากาศแอ็กชันไซไฟที่ไม่ได้ใส่เงื่อนไขมายากเกินไปแต่แรก มันจึงเอาตัวรอดไปได้เพลิน ๆ แต่ถามว่าถ้ามาทางหนังสัตว์ประหลาดหนังซอมบี้ แล้วมีการนำเสนอในหนังแค่นี้ มันก็ไม่ค่อยสุดเท่าไหร่นัก น่าเสียดายเหมือนกัน

ด้านฉากแอ็กชันต่าง ๆ ก็ทำได้สนุก โดยพวกเงื่อนไขที่ต้องสังหารด้วยการทำลายศีรษะเท่านั้นก็ทำให้หนังมีรสชาติที่แปลกตาขึ้น เพราะตัวร้ายก็มีทั้งที่สติสัมปชัญญะปกติมีความเฉลียวฉลาด พวกเพี้ยนแบบบูชาลัทธิ และพวกที่เสียความเป็นมนุษย์ไปแล้ว ทำให้ดีไซน์การต่อสู้นั้นมีความหลากหลาย ตั้งแต่ดิบ ๆ จนถึงเว่อ ๆ ไม่เสียชื่อที่ผู้กำกับเป็นสายสตันท์แมนมาก่อน ทว่าก็ยังไม่ใช่งานที่มีสไตล์น่าจดจำเป็นเอกลักษณ์อย่างพวกผู้กำกับสายสตันท์ที่ดัง ๆ เคยฝากฝีไม้ลายมือไว้ ก็อาจต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปเช่นกันสำหรับผู้กำกับเฮียวมยองฮึง แต่สำหรับเหล่านักแสดงในเรื่องถือว่าฉายแสงน่าดูน่าชมกันทุกคน

ดูไปดูมามันก็มีความเล่าง่ายนำเสนอง่ายแบบหนังไซไฟแบบไทยเหมือนกัน ตั้งแต่ซีจีจระเข้ มาแก๊งอันธพาลหน่อมแน้มให้อมยิ้ม จนมาถึงชุมชนอุดมคติที่น่าสงสัยภายใต้การคุมของกองทัพและนักวิทยาศาสตร์เพี้ยน แม้เต็มไปด้วยองค์ประกอบหลากหลาย แต่พี่เกายังกลบบาดแผลได้ด้วยโปรดักชันที่ทำถึง และการแสดงที่เอาจริงเอาจังตั้งแต่ตัวนำจนตัวประกอบที่ไม่มีหลุด มีความเข้าใจจุดแข็งจุดอ่อนตัวเองแล้วไม่ทำเกินมือ นับเป็นหนังอีกเรื่องที่ดูสนุกได้ในวันว่างเช่นกัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *